ก่อนหน้า
ในส่วนนี้จะอธิบายถึงขั้นตอนในการจัดเก็บเอกสารลงในDocument Server
แม้เครื่องจะทำงานเสร็จสิ้นแล้ว แต่เอกสารที่ใส่รหัสเข้าถูกต้องจะยังคงเปิดอยู่และผู้ใช้อื่นสามารถเข้าใช้ต่อได้ ดังนั้นเมื่อใช้งานเครื่องเสร็จ ให้กดปุ่ม [Reset] เพื่อล้างค่าที่ตั้งไว้
user name ที่บันทึกไว้กับเอกสารที่เก็บใน Document Server มีขึ้นเพื่อระบุผู้สร้างและประเภทเอกสาร ไม่ใช่วิธีการรักษาความปลอดภัยของเอกสาร
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการทำงานส่วนอื่น ๆ ในเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะเปิดสแกนเพื่อทำการสแกนงาน
File Name
File name หรือชื่อของไฟล์ยกตัวอย่างเช่น “COPY0001” และ “COPY0002” จะถูกตั้งไปพร้อมกับไฟล์สำเร็จโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชื่อได้
User Name
บันทึก user name เพื่อระบุชื่อผู้บันทึกหรือกลุ่มผู้บันทึกเอกสารได้ เพื่อการระบุสิทธิ์ให้เลือกชื่อผู้ใช้ที่บันทึกไว้ใน Address Book หรือป้อนชื่อได้โดยตรง [Access Privileges] อาจแสดงแทนที่จะเป็น [User Name] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับAddress Book ดูหัวข้อ "การบันทึก Address และ ผู้ใช้", การเชื่อมต่อกับเครื่อง/การตั้งค่าระบบ
Password
สามารถตั้ง password หรือรหัสผ่านเพื่อป้องกันการสั่งพิมพ์จากผู้ไม่มีสิทธิ์เข้าใช้ได้ เอกสารที่มีการป้องกันจะสามารถเข้าใช้งานได้ต่อเมื่อใส่รหัสผ่านที่ถูกต้องเท่านั้น กรณีเอกสารที่มีการกำหนดรหัสผ่าน จะมีไอคอนรูปกุญแจกำกับอยู่ทางด้านซ้ายของชื่อไฟล์
กดปุ่ม [Home] (
) ที่ด้านล่างตรงกลางของหน้าจอ
กดไอคอน [Document Server]
กด [To Scanning Screen]
กด [Target Fldr. to Store]
ระบุโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บเอกสาร แล้วกด [OK]
กด [User Name]
ระบุ user name แล้วกด [OK]
ชื่อผู้ใช้ที่ปรากฎเป็นชื่อที่บันทึกลงใน Address Book แล้ว หากต้องการระบุชื่อที่ไม่แสดงอยู่บนหน้าจอ กด [Manual Entry] แล้วระบุ user name
กด [File Name]
ใส่ชื่อไฟล์ แล้วกด [OK]
กด [Password]
ระบุรหัสผ่านด้วยปุ่มตัวเลข แล้วกด [OK]
สามารถตั้งรหัสผ่านได้ตั้งแต่ 4 - 8 หลัก
ระบุรหัสผ่านเพื่อยืนยันอีกครั้ง แล้วกด [OK]
วางต้นฉบับ
ต้นฉบับจะเข้าสู่เครื่องโดยอัตโนมัติ
หากเลือก [Press Start Key] ไว้สำหรับ [Feed Start Method] การสแกนจะเริ่มเมื่อคุณกดปุ่ม [Start]
เครื่องทำการสแกนต้นฉบับ
กดปุ่ม [Finish Scanning] หลังจากสแกนเอกสารครบแล้ว
เอกสารจะบันทึกลงใน Document Server
